ของดีราคาถูกไม่มีในโลก เป็นคำกล่าวที่กล่าวกันมานับหลายทศวรรษแล้วที่ว่า อยากได้ของถูก ต้องซื้อของแพง มันเป็นเช่นไร คำพูดคำกล่าวข้างต้นมันขัดแย้งด้วยตัวมันอย่างสิ้นเชิง จ่ายเงินซื้อของแพงจะได้ของถูกได้อย่างไร แล้ว ของถูกต้องซื้อแพงจริงหรือ คำถามที่วกไปวนมาหาคำตอบได้ไม่ยากนัก โดยเฉพาะสาว ๆ นักช็อป ไม่ควรพลาด โลกแห่งการโอ้อวด โลกแห่งการแชร์ ประสบการณ์ที่ใครได้ของใหม่ ของดี ต้อง มาอวด มาโชว์ แล้วปัจจุบัน โลกในปีที่เรา กำลังอาศัยอยู่ ถือว่าอยู่ในช่วงที่ต้อง ควบคุมทั้งอาหาร ความอ้วน และ การเงิน ยิ่งโดยเฉพาะการเงินเป็นสิ่งที่ สำคัญอันดับต้น ๆ ของ ชีวิต แล้วการ ควบคุมการเงินโดยการซื้อของแพง ๆ จะได้ผลจริงหรือ ต้องลองมาสำรวจที่ตัวของเราเองก่อน เป็นอันดับแรก
เริ่มสำรวจว่า เรามีของใช้ที่คล้าย ๆ กันกี่ชิ้น กี่อัน ไม่ว่าจะเป็น รองเท้า กระเป๋า เข็มขัด หรือแม้กระทั้ง เคสมือถือ ถ้าเราทำตามกระแสนิยม ไม่ว่า สินค้าตัวไหนออกมาใหม่ โฆษณาชวนเชื่อต่าง ๆ ที่ทำให้เราหลงมนต์เสน่ห์ ต้องไปซื้อไปหามาละก็ คงต้องบอกได้เลยว่า เงินในกระเป๋าที่ประหยัดมา คงหมดไปในพริบตาจริง ๆ เราลองมาดูกันว่าการได้ของถูกในการต้องซื้อของแพงเป็นเช่นไร ยกตัวอย่างเช่น ท่านผู้ชาย ที่มีรองเท้าหลาย ๆ คู่ไว้ เปลี่ยนไปตามงานต่าง ๆ แค่รองเท้า ที่จะไปทำงานก็ 4 คู่ รองเท้ากีฬา 4 คู่ รองเท้าแตะอีกมากมาย กำหนดสถานที่ในการสวมใส่รองเท้ามากเกินความจำเป็น แต่ เหล่าท่านชายจะบอกว่า คู่ไม่แพง ไม่กี่บาท แต่ถ้าเราเอามาคิดเป็นจำนวนเงินรวมแล้ว อาจจะแพงกว่า รองเท้า ดี ๆ ที่เราซื้อมาราคาแพงเพียงแค่คู่เดียวก็เป็นได้ แล้วถ้ายิ่งมีรองเท้า ราคาถูก ๆ หลาย ๆ คู่การดูแลเอาใจใส่ ก็ จะลดน้อย ถอยลง กิเลศในการ ที่จะซื้อใหม่ก็ เกิดขึ้นได้ง่าย พอรองเท้าเก่านิด หรือ ฝุ่นจับหน่อย ก็ จะถูกละเลย พร้อมจะหาเพื่อนเดินคู่ใหม่ มาในทันที เรียกได้ว่า ใส่พื้นยังไม่ทันสึก ก็ซื้อใหม่แล้ว แบบนี้ไม่เรียกว่า ของถูกกลายเป็นของแพงได้อย่างไร
สำหรับ สาว ๆ ที่กำลัง อ่านมาถึงตรงนี้และ กำลังนั่งนึกว่าตนเอง ใช้เงินเปลืองไหม ใช้เงินเยอะหรือเปล่า แล้วเงินที่ใช้ไป คุ้มค่ากับการเสียไปไหม เราลองมาพิจารณาของที่เรามีอยู่กันดูว่า คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปหรือเปล่า ยกตัวอย่าง เช่นรองเท้า เวลาเราไปเดินตลาดนัด เจอคู่ไหนสวย คู่ไหนมาใหม่ ทั้งที่ยังไม่รู้ว่า ใส่แล้วเหมาะไหม หรือ จะหาชุดใส่คู่ได้ไหม เรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นมาให้รกสมอง ในตอนที่เรากำลังเจอรองเท้าที่ชอบ สิ่งเดียวที่เรากำลัง มองเห็น และ จินตนาการคือ ถ้าเราได้ครอบครองมัน มันจะสุดยอด พร้อมความคิดอีกนิดว่า ใส่แล้วต้องสวย ใส่แล้วต้องเริด ต้องมีคนทักว่า สวยแน่ ๆ สมองสั่งงาน พร้อมมือล้วงกระเป๋าจ่ายไปแบบไม่รู้ตัว ยิ่งถ้าเป็นร้านประจำลงของใหม่ รับรองว่า 2-3 คู่ ติดมือกลับบ้านมาแน่ ๆ แล้วสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา นั้นคือ รองเท้าคู่เก่าแค่ฝุ่นจับ รองเท้าคู่เก่าที่ยังใหม่ วันนี้ กลายเป็นของเก่า หมดคุณค่า หมดราคา พร้อมที่จะถูกทิ้งแบบ ไม่เหลือเยื้อใย ถูกตัดความสัมพันธ์ที่เราเคยร่วมทางกันมา รองเท้าคู่เดิม ก็ กลายเป็นแค่เศษหนัง เศษพลาสติกธรรมดา แล้วในแต่ละเดือนสินค้าใหม่ลงกี่ครั้ง กี่รอบ เราแวะไปดูแทบจะทุกอาทิตย์ หมดเงินไปเท่าไหร่ ถ้านับดี ๆ รวม ๆ ในแต่ละเดือน อาจจะมากกว่าเงินเก็บสะสมทั้งเดือนก็เป็นได้ ปัญหาการซื้อของถูกได้แพงก็เกิดขึ้นทันที
ฟังดูเรื่องธรรมดาอาจจะกลายเป็นเรื่องที่ดูเครียดขึ้นมาทันที มาดูวิธีการซื้อของแพง ได้ของถูกกันว่าจะเป็นเช่นไร แก้ปัญหาอย่างไร ให้ถูกจุด เรื่องพวกนี้ มักมีจุดตายตัวสำคัญ หลัก ๆ ตรงที่ ของแพงเรามักหวง และ ห่วงเสมอข้าวของเครื่องใช้ ที่ซื้อมาราคาแพง เราจะได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มคุณค่า การดูแล รักษา เราจะทำอย่างทะนุถนอม เราจะได้ใช้ ได้อวดสินค้ามียี่ห้อ ต่าง ๆ ความคุ้มค่า ความทนทาน ยังคงอยู่ไม่ว่าจะผ่านเท่าใด
แล้วการจะตัดสินใจซื้อของใหม่อีกครั้งก็จะเป็นเรื่องที่ยังหวง ยังห่วงของทีได้ใช้อยู่ แล้วอาจจะมีความคิดที่ผุดขึ้นมาได้ว่า ของธรรมดาที่จะซื้อมาใหม่นั้น จะดีเหมือนของมียี่ห้อหรือเปล่า เมื่อความคิดแบบนี้ บังเกิด เงินในกระเป๋าก็ยังอยู่ ดังนั้นการที่เราซื้อของแพง ก็จะไม่ใช่ของแพงอีกต่อไป
สินค้า หลายๆ อย่างที่เราสามารถมีเพียงชิ้นเดียวก็มากพอเกินความต้องการ อย่างเช่นเข็มขัด แว่นกันแดดกระเป๋าเงิน ของพวกนี้ จะมีอายุการใช้งานนาน ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยๆ ให้เปลืองเงิน
ยังไม่สายเกินแก้ ที่จะรู้จักการใช้ของที่มีอยู่ให้คุ้มค่ากับ เงินที่เสียไปการซื้อของแพงมาใช้ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นปัญหาหนักอกหนักใจ แต่ ปัญหาจริง ๆ คือการ ที่ซื้อบ่อยเกินความจำเป็น ถ้ามีอยู่แล้วควรประยุกต์ใช้ ซื้อข้าวของเครื่องใช้ ให้เหมาะที่จะ ใช้ได้ทุกงาน ทุกโอกาส เงินในกระเป๋าของท่านก็ จะไม่หล่นหาย แถมด้วยเงินในกระปุก หรือ บัญชี ก็จะโตตามกันไปด้วย